ระบบการตัดวอเตอร์เจ็ท (Waterjet Cutting)

การตัดโดยวิธีนี้จะใช้น้ำที่มีความดันสูงอัดผ่านรูเล็กๆที่เราเรียกว่า Orifice หรือ Jewel เพื่อทำการพ่นเข้าสู่วัสดุที่จะทำการตัด ซึ่งสามารถแยกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ กระบวนการตัดโดยใช้น้ำอย่างเดียว (Pure Waterjet Cutting) และกระบวนการตัดโดยใช้น้ำซึ่งมีการผสมสารกัดกร่อนเข้าไปด้วย (Abrasive Waterjet Cutting) ทั้งสองประเภทนี้มีความสามารถเฉพาะตัวที่เอื้อต่อประโยชน์นในการนำไปใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมทั้งสิ้น



ระบบเพียร์ว วอเตอร์เจ็ท กระบวนการตัดโดยใช้น้ำอย่างเดียว (Pure Waterjet Cutting)
ระบบเพียร์ว วอเตอร์เจ็ท เป็นระบบดั้งเดิมของการตัดด้วยแรงดันน้ำ การนำไปใช้เพื่อการพาณิชย์ครั้งแรกเกิดขึ้นช่วงต้นของยุคปี 1970 และนำไปใช้ในการตัดกระดาษแข็งลูกฟูก การตัดด้วยระบบเพียร์ว วอเตอร์เจ็ทถูกนำไปใช้มากที่สุดในการตัด ผ้าอ้อมกระดาษ, กระดาษชำระ, และอุปกรณ์ภายในรถยนต์ ในกรณีที่ใช้ตัดกระดาษชำระและผ้าอ้อมกระดาษนั้น ขั้นตอนการทำงานของระบบวอเตอร์เจ็ททำให้เกิดความชื้นในวัสดุน้อยเสียกว่าการสัมผัสหรือแม้แต่หายใจใส่บนตัววัสดุ กรณีเครื่องขัดข้องโดยไม่ได้คาดหมาย เช่นเดียวกับขั้นตอนการตัดอื่น ๆ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 20,000 เหรียญต่อชั่วโมงในโรงงานผลิตผ้าอ้อมหรือกระดาษชำระ ระบบวอเตอร์เจ็ททำงานได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงต่อวัน, 7 วันต่อสัปดาห์, 360 วันต่อปี โดยไม่มีการหยุดเครื่องตามความต้องการนำไปใช้งาน ซึ่งการดูแลรักษาสามารถทำได้ในระหว่างการผลิต

กระบวนการตัดโดยใช้น้ำอย่างเดียว (Pure Waterjet Cutting)

คุณสมบัติของระบบเพียร์ว วอเตอร์เจ็ท (Pure Waterjet Cutting)
- กระแสน้ำบางมาก (เส้นผ่านศูนย์กลาง ในการทำงานทั่วไป อยู่ที่ 0.004 ถึง 0.010 นิ้ว)

- สามารถตัดรูปทรงเรขาคณิตที่ให้รายละเอียดสูง

- สูญเสียเนื้อวัสดุจากการตัดน้อยมาก

- ไม่ทำให้เกิดความร้อนจากการตัด

- สามารถตัดวัสดุที่หนามาก ๆ ได้

- สามารถตัดวัสดุที่บางมาก ๆ ได้

- สามารถทำงานตัดได้รวดเร็ว

- สามารถตัดวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและนิ่มได้เป็นอย่างดี (เช่น ผ้ายางกันฉนวนไฟเบอร์กลาสที่มีความหนาสูงสุดถึง 24 นิ้ว)

- เกิดแรงเสียดทานในการตัดน้อยมาก

- ง่ายต่อการประกอบติดตั้ง

- เดินเครื่องใช้งานได้ 24 ชั่วโมงต่อวัน