หัวตัดพลาสมาที่ใช้ในการตัดโลหะต้องเลือกให้มีความเหมาะสมกับพิกัดกำลังของตัวเครื่อง เนื่องจากการทำงานของหัวตัดพลาสมาแต่ละหัวจะมีพิกัดกระแสและแรงดันที่ใช้งานในการตัดที่แตกต่างกัน
ส่วนประกอบหัวตัดพลาสม่า |
1. Shield เป็นส่วนปลายสุดของหัวตัดเพื่อป้องกันส่วนของ Nozzle ไม่ให้เกิดความเสียหาย
2. Retaining Cap เป็นชิ้นส่วนนอกสุดของหัวตัดเพื่อจับยึดส่วนประกอบอื่นๆ กับส่วนของ Torch Head
3. Nozzle เป็นชิ้นส่วนที่ใช้บีบอาร์คพลาสมาผ่านช่องรูเล็กๆ ที่อยู่ตรงปลายของหัว Nozzle เป็นไปอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดลำอาร์คพลาสมา
4. Electrode เป็นส่วนของตัวนำไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงเพื่อให้เกิดอาร์คไฟฟ้าหลักซึ่งเป็นส่วนที่ต่อจาก Swirl Ring
5. Swirl Ring เป็นส่วนที่ทำให้อากาศถูกบีบอัดให้ผ่านช่องรูเล็กๆ ทางด้านข้างทำให้อากาศเคลื่อนที่หมุนผ่านไปยังขั้ว Electrode ไปอย่างรวดเร็ว
6. Torch Head เป็นส่วนนอกสุดที่ใช้จับยึดส่วนของ Retaining Cap เพื่อยึดส่วนประกอบต่างๆ เข้าด้วยกัน
ความได้เปรียบของเครื่องตัดพลาสมา
ความได้เปรียบของเครื่องตัดพลาสมาที่ใช้ในการตัดโลหะมีอยู่หลายประการ สามารถแบ่งเป็นข้อๆ ได้ ดังนี้
1. สามารถตัดชิ้นงานที่มีความเว้าโค้งหรือรูปร่างต่างๆ ได้โดยง่าย
2. สภาพรอยตัดจะมีความราบเรียบและออกมาสวยงามมีความเรียบร้อย
3. สามารถทำความเร็วในการตัดโลหะได้เนื่องจากลำอาร์คพลาสมามีความร้อนสูงมาก
4. ความร้อนที่เกิดจากการตัดโลหะจะกระจายความร้อนในวงแคบๆ
5. มีความสะดวกในการใช้งาน
ในความได้เปรียบหลายประการของเครื่องตัดพลาสมานั้นก็ยังมีข้อที่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่องของราคาต้นทุนที่ค่อนข้างสูงจึงค่อนข้างได้รับความนิยมในภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก อย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้นี้การนำเทคโนโลยีการตัดโลหะด้วยอาร์คพลาสมาจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในภาคอุตสาหกรรมครัวเรือนเช่นกันเมื่อมีการพัฒนาให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดมีความสะดวกในการใช้งาน รวมทั้งเรื่องของราคาที่ถูกลงและมีความเหมาะสมกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็มีแนวโน้มเป็นเช่นนั้นที่ราคาของเครื่องตัดพลาสมาก็ได้ลดลงมา เนื่องจากมีหลายบริษัทที่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายและเป็นผู้ผลิตเอง ซึ่งมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ทำให้ราคาของเครื่องตัดพลาสมาถูกลง
No comments:
Post a Comment