Metal blackening (การรมดำ) |
การรมดำ
การรมดำ(Metal Blackening) เป็นการทำให้ผิวของโลหะเปลี่ยนเป็นออกไซด์ โลหะนั้นมีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มสีดำเกาะติดแน่นบนผิวของโลหะ ในการรมดำเหล็กจะนำชิ้นงานที่เป็นเหล็กมาต้มในสารละลายที่ประกอบด้วย NaOH และ NaNO3 ที่อุณหภูมิ 135-145oC ซึ่งจะเห็นชิ้นงานเป็นสีดำ จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด เช็ดให้แห้งแ ล้วชโลมด้วยน้ำมัน
วิธีการรมดำเหล็กการรมดำ(Metal Blackening) เป็นการทำให้ผิวของโลหะเปลี่ยนเป็นออกไซด์ โลหะนั้นมีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มสีดำเกาะติดแน่นบนผิวของโลหะ ในการรมดำเหล็กจะนำชิ้นงานที่เป็นเหล็กมาต้มในสารละลายที่ประกอบด้วย NaOH และ NaNO3 ที่อุณหภูมิ 135-145oC ซึ่งจะเห็นชิ้นงานเป็นสีดำ จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด เช็ดให้แห้งแ ล้วชโลมด้วยน้ำมัน
สารเคมี
1.โซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) 750 กรัม
2.โซเดียมไนไตรต์ 250 กรัม
3.น้ำ 1 ลิตร
วิธีการ
1.เตรียมผิวชิ้นงานให้เรียบร้อย ถ้าต้องการรมดำด้านก็พ่นทรายที่ผิว ถ้าต้องการรดำมันก็ต้องขัดเหล็กจนเรียบครับ (ขัดด้วยกระดาษทรายไล่ความละเอียดจาก 300-600-800-1000)
2.ล้างชิ้นงานให้สะอาด โดยเฉพาะคราบไขมัน (รอยนิ้วมือ) ในหนังสือแนะนำสารล้าง 2 ตัวครับ คือต้มในโซดาไฟ หรือจะล้างด้วยน้ำยาล้างจานก็ได้ เพิ่มเติมให้อีกวิธีนึงคือใช้น้ำยาเช็ดกระจกก็ให้ผลดีครับ
3.เตรียมสารเคมีในภาชนะสเตนเลสเท่านั้น (ถ้าใช้ภาชนะเหล็กกล้าจะถูกน้ำยารมดำจะกัดกร่อน) ภาดที่ใส่อาหารตามร้านข้าวแกงน่าจะมีขนาดเหมาะสมกับการรมดำมีดมากกว่าหม้อนะครับ -เอาน้ำใส่ในภาชนะที่ต้องการ-ค่อยๆใส่สารเคมีทั้ง 2 ชนิดลงไป ****ห้ามใส่สารเคมีก่อนแล้วเติมน้ำตามโดยเด็ดขาด**** คนให้สารเคมีละลาย
4.เมื่อน้ำเริ่มเดือด (100 องศา)ใส่ชิ้นงานลงไป ต้มซักครึ่งชั่วโมง ถ้าได้ผิวรมดำสม่ำเสมอดีแล้วก็หยุดต้มครับ ถ้ายังก็ต้มต่อซักพัก
5.ล้างชิ้นงานด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ใช้น้ำมันเช็ดปืนหรือน้ำมันเครื่องทาให้ชุ่ม นำไปวางไว้กลางแดด (หากาละมังหรืออะไรมาครอบไว้หน่อย) ซักครึ่งชั่วโมง
ข้อควรระวัง
1.ใส่น้ำในภาชนะก่อนแล้วค่อยเติมสารเคมี
2.ควรสวมถุงมือยางขณะทำงาน
3.ต้มชิ้นงานในที่อากาศถ่ายเทสะดวก เพราะควันสารเคมีเหม็นและกัดเยื่อบุทางเดินหายใจ
4.สารเคมีที่ใช้แล้ว ถ้าจะเก็บไว้ควรเก็บใส่ในขวดพลาสติกทึบ ถ้าจะทิ้งต้องเทลงท่อพร้อมทั้งปิดน้ำตามมากๆ (แนะนำว่าเก็บไว้ใช้ดีกว่าครับ)
No comments:
Post a Comment