Showing posts with label งานตัดโลหะแผ่น. Show all posts
Showing posts with label งานตัดโลหะแผ่น. Show all posts

Saturday, 20 November 2010

งานตัดโลหะแผ่น

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการตัดโลหะแผ่นพัฒนาไปมาก มีกรรมวิธีการตัดให้เลือกหลายวิธี ทำให้สามารถตัดชิ้นงานด้วยความแม่นยำสูง และตัดได้หนาขึ้นกว่าเดิมมาก อย่างไรก็ตาม ไม่มีกรรมวิธีการตัดแบบไหนที่จะเป็นคำตอบสำหรับทุกงาน ในวิธีการตัดแบบต่างๆก็มีข้อดี ข้อด้อยต่างกัน การเลือกวิธีการตัดให้เหมาะสมกับงานจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่เหมาะสมกับความต้องการ, ลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสการแข่งขันทางการตลาด



สำหรับเทคโนโลยีการตัดโลหะแผ่นที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน มีอยู่ 4 ประเภท คือ
1. พลาสมา(Plasma)
2. เลเซอร์(Laser)
3. แรงดันน้ำ(Waterjet)
4. เครื่องเจาะระบบหัวตอก(Turret Punching)

อันที่จริง ยังมีการตัดด้วยแก๊ส ซึ่งนิยมใช้ในงานตัดเหล็ก แต่เนื่องจาก บทความนี้จะเน้นเนื้อหาไปที่ โลหะกลุ่มสเตนเลสเป็นหลัก จึงขอไม่กล่าวถึงในที่นี้ ในส่วนของเครื่องเจาะนั้น โดยธรรมชาติของกระบวนการแล้ว ไม่ได้เป็นการตัดเหมือนวิธีอื่นๆ แต่ผมขอรวมไว้ในบทความนี้ด้วย เนื่องจาก มีงานหลายประเภท ที่สามารถใช้วิธีนี้ในการผลิตชิ้นงานแทนการตัดได้ และอาจจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าด้วย สำหรับฉบับนี้ เรามาทำความรู้จักกับวิธีการตัดแบบต่างๆกันก่อน

เครื่องตัดพลาสม่าซีเอ็นซี
1.เครื่องตัดพลาสม่า (Plasma) พลาสม่าเป็นสถานะที่ 4 ของสสาร (หลังจากของแข็ง, ของเหลว, แก๊ส) เกิดจากการกระตุ้นอิเล็กตรอนให้หลุดจากอะตอมของสสาร ทำให้เกิดพลังงานสูงมาก จนกลายเป็นพลังงานความร้อนที่นำมาใช้ในการตัดโลหะ ข้อดีของพลาสม่าคือ สามารถตัดงานได้หนามาก โดยสามารถตัดสเตนเลสได้หนาถึง 3” (ขึ้นอยู่กับกระแสไฟที่ใช้) และสามารถตัดได้ด้วยความเร็วสูงกว่าวิธีอื่นๆ แต่มีจุดด้อยคือ ร่องตัดมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และเอียง(เตเปอร์) ด้วยข้อด้อยเหล่านี้ ทำให้การตัดด้วยพลาสม่าไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดสูง โดยทั่วไปแล้ว จะเหมาะกับงานหนา ที่มีรูปร่างไม่ซับซ้อน ยอมรับความคลาดเคลื่อนและความเอียงของสันชิ้นงานได้ประมาณ 1-3mm (ขึ้นอยู่กับความหนาชิ้นงาน และ ความสามารถของเครื่อง) หรือ หากเป็นงานหนาที่ต้องการความละเอียดมากขึ้น ก็อาจจะตัดด้วยพลาสม่า แล้วนำไปกลึง หรือ เจียร์แต่งเพิ่ม เพื่อให้ได้ขนาด และ ผิวชิ้นงานตามที่ต้องการ

เครื่องตัดเลเซอร์
2.เครื่องตัดเลเซอร์ (Laser) เลเซอร์เป็นการตัดโดยใช้พลังงานความร้อนเหมือนกับการตัดด้วยพลาสม่า แต่กระบวนการผลิตพลังงานที่นำมาใช้ตัดต่างกัน ทำให้เปลวที่ใช้ในการตัด เล็กและแคบกว่าพลาสม่ามาก ส่งผลให้ร่องตัดมีขนาดเล็ก, สันแนวตัดตรง ข้อเสียคือ มีข้อจำกัดเรื่องความหนา โดยเครื่องที่อาจกล่าวได้ว่ามีกำลังวัตต์สูง(4000-5000W) จะตัดสเตนเลสได้ประมาณ 15-19 mm และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ตั้งแต่ราคาเครื่องตัดเลเซอร์รวมไปถึง แก๊ส หัวนอซเซิล และวัสดุสิ้นเปลืองต่างๆ การตัดเลเซอร์จึงเหมาะกับงานบางที่ต้องการความละเอียดสูง โดยมีความคลาดเคลื่อนเพียง +/-0.15mm

แลกลิงค์

Create your own banner at mybannermaker.com!
Copy this code to your website to display this banner!
ต้องการแลกลิงค์ติดต่อ plasmamax@gmail.com